วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทคโนโลยี 3 G

3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องจากยุคที่ 2 และ 2.5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง และ การส่งข้อมูลในขั้นต้น ทั้งยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การพัฒนาของ 3G ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดีย และ ส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น
ลักษณะการทำงานของ 3G เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี 2G กับ 3G แล้ว 3G มีช่องสัญญาณความถี่ และ ความจุในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้ บริการมัลติมีเดียได้เต็มที่ และ สมบูรณ์แบบขึ้น
เช่น บริการส่งแฟกซ์, โทรศัพท์ต่างประเทศ ,รับ-ส่งข้อความที่มีขนาดใหญ่ ,ประชุมทางไกลผ่านหน้าจออุปกรณ์สื่อสาร, ดาวน์โหลดเพลง, ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ เทคโนโลยี
3G น่าสนใจอย่างไร
จากการที่ 3G สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ อย่างรวดเร็ว และ มีรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายในระบบ 3G สามารถให้บริการระบบเสียง และ แอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่
เช่น จอแสดงภาพสี, เครื่องเล่น mp3, เครื่องเล่นวีดีโอ การดาวน์โหลดเกม, แสดงกราฟฟิก และ การแสดงแผนที่ตั้งต่างๆ ทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่สร้างความสนุกสนาน และ สมจริงมากขึ้น
3G ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้น โดย โทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือน คอมพิวเตอร์แบบพกพา, วิทยุส่วนตัว และแม้แต่กล้องถ่ายรูป ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัว เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ), แก้ไขข้อมูลส่วนตัว และ ใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์, ข่าวบันเทิง, ข้อมูลด้านการเงิน, ข้อมูลการท่องเที่ยว และ ตารางนัดหมายส่วนตัว “Always On”
คุณสมบัติหลักของ 3G คือ
มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของ 3G ตลอดเวลาที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์ (always on) นั่นคือไม่จำเป็นต้องต่อโทรศัพท์เข้าเครือข่าย และ log-in ทุกครั้งเพื่อใช้บริการรับส่งข้อมูล
ซึ่งการเสียค่าบริการแบบนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้น โดยจะต่างจากระบบทั่วไป ที่จะเสียค่าบริการตั้งแต่เราล็อกอินเข้าในระบบเครือข่าย อุปกรณ์สื่อสารไร้สายระบบ 3G สำหรับ 3G อุปกรณ์สื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังปรากฏในรูปแบบของอุปกรณ์ สื่อสารอื่น เช่น Palmtop, Personal Digital Assistant (PDA), Laptop และ PC

แหล่งท่องเที่ยวสวนส้มธนาธรฝาง
















สวนส้มธาราธรสวนส้มธนาธรจัดเป็นสวนส้มขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เป็นสวนส้มส่งออก ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีทันสมัย เกี่ยวกับการคัด-บรรจุส้มมาใช้ เทีบบเท่ากับต่างประเทศ เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 27 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั้งใน และต่างประเทศ นอกจากแปลงปลูกส้มแล้วสวนธนาธรยังมี แปลงขยายพันธุ์ และแปลงทดสอบคัดเลือกพันธุ์ส้ม จนได้พันธุ์ส้มที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ล่าสุดคือ ส้มธนาธรเบอร์ 1 จัดเป็นส้มเปลือกร่อนที่ผลดก รสชาติดี เมื่อส่งออกไปต่างประเทศราคาต่อกิโลกรัมมากกว่า 100 บาท นอกจากส้มชนิดต่างๆ แล้วทางสวนธนาธรยังมีการผลิต กิ่งพันธุ์ส้มปลอดโรคคุณภาพสูงจำหน่าย แก่ผู้สนใจทำสวนส้มทั่วไปอีกด้วย สวนส้มของบริษัทจะมีส้มอยู่ 4 สายพันธุ์ คือ 1. ส้มสายน้ำผึ้ง มีสีเหลืองลูกใหญ่ รสชาดหวานซางในนิ่มและมีน้ำมาก ซึ่งพันธุ์นี้ทางบริษัทเป็นผู้ริเริ่มปลูกเป็นเจ้าแรก สายพันธุ์นี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของส้มพันธุ์ที่ทางบริษัทปลูกอยู่เดิมในสวนและต่อมาทางบริษัทก็ได้ทำการขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น2. ส้มธนาธร เบอร์1 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โอเชี่ยน มีสีเหลืองลูกใหญ่ รสชาดหวานอมเปรี้ยวซางในนิ่มและมีน้ำมาก ส้มสายพันธุ์นี้ทางบริษัทได้ผสมพันธุ์เองโดยใช้พันธุ์ส้มเช้งผสมกับพันธุ์สายน้ำผึ้ง3. ส้มฟรีมองต์ มีสีส้มออกแดง เปลือกหนา มีรสชาดอมเปรี้ยว รสชาดอร่อยน้อยกว่าพันธุ์สายน้ำผึ้งและธนาธร เบอร์14. ส้มผิวทอง หรือ ส้มเขียวหวาน มีสีเหลืองลูกเล็ก เป็นพันธุ์แรกที่ทางบริษัทนำมาปลูกในสวนเมื่อ พ.ศ. 2519 หรือเมื่อ 24 ปีที่แล้วที่นี่จัดบริการให้มีรถเข้าชมครับ โดยรถรวม คิด 30 บาทต่อคน ถ้าไปด้วยรถกอล์ฟ 100 บาทสามารถจอดได้ทุกที่ในสวนและยังสามารถเก็บส้มได้ 1 กิโลกรัม ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.tntorchard.com/

เนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษ

แผนการสอนที่ 1
เรื่อง My best friend
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ป.5 เวลา 15 คาบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1.สาระสำคัญ
การสนทนาถาม-ตอบข้อมูลส่วนตัวในภาษาเป็นการเริ่มต้นการเรียนภาษาที่ดี เพราะนอกจากจะฝึกทักษะการพูดแล้วยังฝึกทักษะการฟังไปด้วยจึงควรมีการฝึกบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญอันจะนำไปสู่การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ.
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ ฟังแล้วตอบคำถามได้ถูกต้อง
2.1 จุดประสงค์ปลายทาง
ฟังและพูด ถาม-ตอบ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวได้
2.2 จุดประสงค์นำทาง
1. ออกเสียงและกล่าวคำทักทายได้ถูกต้อง
2. พูดตามสถานการณ์ง่ายๆ ได้
3. พูดถามตอบเกี่ยวกับการถามข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นได้
4. บอกความหมายของคำศัพท์ได้
5. ฟังประโยคคำถามแล้วตอบได้
6. เขียนตอบคำถามได้
3. เนื้อหา
Structures : Do you have any brothers or sisters?
- No, I don’t have any. / Yes,I have(จำนวนพี่น้อง.)
What grade are you in ?
- I’m in the (ชั้นปี) grade.
Who’s your best friend?
- My best friend’s(ชื่อเพื่อนรัก.)
What do you like to do?
- I like to (กิจกรรม.)
Where do you study?
- I study at (ชื่อโรงเรียน.)
Vocabulary :Special guests.
Song : My best friend
ใช้หนังสือแบบเรียนภาษาอังกฤษ Let’s go English A to Z ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน้า 1-2
กิจกรรมการเรียนการสอน
นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทายนักเรียนว่า Good morning , students. และแนะนำตนเองว่า My name’s “(ชื่อครู)” I’m your new English teacher : จากนั้นครูเขียนชื่อตนเองบนกระดานดำ แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนทีละคนครูทักทายนักเรียนว่า Good morning แล้วให้นักเรียนตอบทั้งแนะนำตนเองว่า Good morning. My name is (ชื่อนักเรียน) ครูทำกิจกรรมนี้ต่อไปจนทักทายนักเรียนทุกคนในชั้นครบทุกคน
2. ร้องเพลง Hi. Good morning โดยครูติดชาร์จเพลง Hi,Good morning บนกระดานเปิดเทปเพลงแล้วร้องนำนักเรียนร้อง.
3. ทบทวนเนื้อเรื่องในแบบเรียน Let’s go 4
4. แบ่งกลุ่ม 4-5 กลุ่ม ๆละเท่าๆกัน ในแต่ละกลุ่มครูให้นักเรียนช่วยกันทบทวนเนื้อเรื่องที่เรียนมา ครูให้เวลา 5-10 นาที ในการเข้ากลุ่ม จากนั้นครูสรุปเนื้อเรื่องหรืออาจถามคำถาม แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบก็ได้
5. ครูถามนักเรียนถึงประโยคที่เรียนมา เช่น
- Do you have brothers or sister?
- What grade are you in?
- Who’s your best friend?
- What do you like to do?
ขั้นสอน
1. กิจกรรมการทักทาย
1.1 ครูสร้างสถานการณ์การทักทาย ครูนำเสนอภาพประกอบบทสนทนาและใช้แถบประโยคสนทนามาติดบนกระดาน
1.2 ให้นักเรียนจับฉลากจับคู่และฝึกพูดบทสนทนาการทักทายจนคล่อง
2. การสอบถามข้อมูลส่วนตัว
2.1 ดูหนังสือบทที่ 1 เรื่อง My best friend จากนั้นครูพูดกับนักเรียนว่าถ้าพิธีกรถาม Lisa ว่า What is your name? Lisa ควรจะตอบว่าอย่างไร ครูติดแถบประโยค What is your name? บนกระดานนักเรียนช่วยกันตอบว่า My name is Lisa. ครูติดแถบประโยค My name is Lisa. บนกระดาน ครูทำกิจกรรมนี้ไปเรื่อยๆโดยใช้ประโยคคำถาม How old are you? Do you have brothers or sisters? What are you in? ถ้านักเรียนเป็นLisa จะตอบว่าอย่างไร
3. ฟังบทสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น
3.1 ครูเปิดเทปให้นักเรียนฟังตัวละครสนทนากันโดยให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียนตามไปด้วย ครูเปิดเทปให้ฟัง 2 ครั้ง
3.2 สอนออกเสียงคำศัพท์ใหม่ special และ guests และช่วยกันหาความหมายของคำศัพท์ จากนั้นครูถามนักเรียนว่า
- รายการนี้ชื่อรายการอะไร
- พิธีกรจะสัมภาษณ์ใครบ้าง
- Lisa อายุเท่าได
- Lisa มีพี่น้องหรือไม่
- Lisa เรียนอยู่ที่ใด ชั้นใด
4. สอนกฎการสร้างประโยคคำถามจากประโยคบอกเล่า
5. สอนประโยคการถามตอบข้อมูลส่วนตัว
5.1 ติดแถบประโยค Who is your best friend? ครูนำหน้ากาก Lisa และ Ginger ขึ้นมาแล้วสนทนา
Ginger : Who’s your best friend?
Lisa : My best friend is Anne.
5.2 ติดแถบประโยค What do you like to do? บนกระดานและนำหน้ากาก Lisa และ Ginger สนทนาดังนี้
Ginger : What do you like to do?
Lisa : I like to do gymnastics.
ขั้นฝึกหัด
1. ครูให้นักเรียนจับคู่และฝึกพูดบทสนทนาโดยให้นักเรียน 1 คน พูดบทสนทนาของพิธีกร และนักเรียนอีกคนพูดบทสนทนาของ Lisa จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ ออกมาแสดงบทบาทสมมุติหน้าชั้นเรียน โดยใช้บทสนทนาในแบบเรียนหน้า1
2. ทำแบบฝึกหัดหน้า 1 แบบฝึกหัด 1A Look, Listen and number the pictures. และแสดงความคิดเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในแต่ละภาพ
3. ทำแบบฝึกหัด 1B Number the sentence.
4. ฝึกสนทนาโดยครูจัดห้องเรียนเป็นห้องส่งรายการ เช่น ตีสิบ เจาะใจ โดยให้แต่ละคู่แสดงเป็นพิธีกร 1 คน คนที่มีชื่อเสียง 1 คน แล้วแสดงบทบาทสมมติโดยใช้บท โดยใช้คำถามและคำตอบที่ครูได้สอนไปแล้ว.
5. กำหนดประโยคบอกเล่าบนกระดานแล้วผลัดเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคคำถาม
เช่น
My name is Anne. Her name is Lisa
I am 10 years old. She is 10 years old.
I don’t have any brothers or sisters. She doesn’t have any brothers or sisters.
I am in the 5th grade. She is in the 5th grade.
I Study at St. Paul School. She studies at St. Paul School
My best friend is Lisa. Her best friend is Anne.
I like to play with my rabbit. She likes to do gymnastics
ขั้นสรุป
1. เล่นเกม Personal Information. โดยครูเขียนชื่อ อายุ ญาติพี่น้อง ชั้นเรียน โรงเรียน เพื่อนรัก กิจกรรมที่ชอบ ที่เป็นคำศัพท์ที่นักเรียนรู้จักลงในกระดาษแล้วพับใส่กล่องใหญ่ แยกเป็นประเภทจากนั้น
สุ่มนักเรียนครั้งละ 2 คน ออกมาหน้าชั้นเรียน ครูให้นักเรียนหนึ่งคนเป็นคนจับฉลาก แล้วให้นักเรียนอีกคนเป็นผู้ตั้งคำถาม โดยที่เป็นฝ่ายถามต้องใช้คำถามให้ถูกต้องตรงกับหัวข้อของข้อมูลในกล่องที่เพื่อนเลือก เช่น ถ้าเพื่อนของนักเรียนเลือกจับฉลากจาก กล่องหัวข้อ LIKE TO DO ได้ฉลาก dance นักเรียนฝ่ายถามต้องใช้ประโยคคำถาม What do you like to do? ส่วนนักเรียนที่เป็นฝ่ายตอบจะต้องใช้ข้อมูลในฉลากที่ตนได้ตอบคำถามเพื่อนดังนั้นนักเรียนฝ่ายตอบต้องตอบว่า I like to dance. จากนั้นครูถามนักเรียนในชั้นว่า What does he/she like to do? ให้นักเรียนตอบพร้อมกันว่า He/she likes to dance.
สื่อการเรียนการสอน
1. แบบเรียนและสมุดแบบฝึกหัด
2. เทปบันทึกเสียง
3. แถบประโยค
4. หน้ากากตัวละคร
5. ฉลากจับคู่
6. เกม Personal Information
การวัดผลประเมินผล
1. ความถูกต้องในการออกเสียงและกล่าวคำทักทาย
2. ความถูกต้องในการใช้ประโยคที่ได้เรียนไป
3. ความสนใจในการร่วมกิจกรรม
4. ตรวจแบบฝึกหัด

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ: นางสาวรัตติกาล บุญอินถา
ชื่อเล่น: แนน
เกิดวันที่: 21 กรกฎาคม 2529
อายุ: 23
อยู่บ้านเลขที่: 50 หมู่ 15 ต. แม่นาวาง อ. แม่อาย จ. เชียงใหม่ 50280
โทรศัพท์: 0846106325
e - mail address: rattikannarak@hotmail.com
การศึกษา: ศศ.บ ภาษาอังกฤษธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
อาชีพ: ครูอัตราจ้าง